Puma ก่อตั้งขึ้นในปี 1948 โดย Rudolf Dassler หลังจากที่เขาแยกทางกับพี่ชายของเขา Adolf Dassler ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Adidas ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทรองเท้า Dassler Brothers Shoe Factory ในปี 1924 ที่เมือง Herzogenaurach ประเทศเยอรมนีหลังจากความขัดแย้งส่วนตัวและทางธุรกิจระหว่างพี่น้อง Dassler บริษัทเดิมถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน โดย Adolf Dassler ก่อตั้ง Adidas และ Rudolf Dassler ก่อตั้ง Puma ซึ่งเดิมมีชื่อว่า Ruda ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Puma
Puma มีความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้น ในปี 1952 Puma ได้เปิดตัวรองเท้าฟุตบอลที่ชื่อว่า “Atom” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ในปี 1958 Puma ได้ใช้โลโก้เสือ (Puma) เป็นครั้งแรกในสินค้าของตนในช่วงปี 1960-1970 Puma ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการกีฬา โดยมีนักกีฬาชื่อดังหลายคนที่เลือกใช้รองเท้าของ Puma เช่น Pelé นักฟุตบอลชาวบราซิล และ Tommie Smith นักวิ่งชาวอเมริกัน ซึ่งได้รับเหรียญทองในโอลิมปิกเกมส์ ปี 1968 และสวมรองเท้า Puma ขณะทำการประท้วงเพื่อสิทธิมนุษยชนบนโพเดียมความขัดแย้งระหว่าง Puma และ Adidas ซึ่งก่อตั้งโดยพี่น้อง Dassler ยังคงดำเนินต่อไปในช่วงหลายทศวรรษ ทั้งสองบริษัทต่างพยายามที่จะเป็นผู้นำในตลาดรองเท้ากีฬา ซึ่งมีผลกระทบในเชิงบวกต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องในปี 1986 Puma ได้กลายเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และเริ่มขยายการผลิตและการตลาดไปยังทั่วโลก ในปี 1990s Puma ได้รับการยอมรับในวงการแฟชั่นเช่นกัน โดยมีการร่วมมือกับนักออกแบบและศิลปินชื่อดังมากมายในปี 2007 บริษัทกลุ่ม PPR (ปัจจุบันคือ Kering) ได้เข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ Puma ทำให้บริษัทมีทรัพยากรมากขึ้นในการพัฒนาและขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ Puma ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความทันสมัยและเป็นที่นิยม เช่น รองเท้า Puma Suede และ Puma Clyde ที่ได้รับการออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันและเป็นแฟชั่นPuma ได้ร่วมมือกับนักกีฬาชื่อดังหลายคน เช่น Usain Bolt นักวิ่งชาวจาไมก้า และนักฟุตบอลระดับโลกอย่าง Neymar Jr. ซึ่งช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและทันสมัยให้กับแบรนด์นอกจากนี้ Puma ยังได้ร่วมมือกับเซเลบริตี้และนักออกแบบแฟชั่นชั้นนำเช่น Rihanna และ Jay-Z เพื่อเปิดตัวสินค้าและคอลเลคชั่นพิเศษที่มีความโดดเด่นและน่าจดจำPuma ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยได้มีการนำเอาวัสดุรีไซเคิลและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการผลิตสินค้า เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
Puma เป็นที่รู้จักในด้านการออกแบบที่โดดเด่นและมีสไตล์ซึ่งผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัย นี่คือประเด็นสำคัญบางประการเกี่ยวกับดีไซน์ของ Puma
Puma เริ่มต้นจากการผลิตรองเท้ากีฬาที่เน้นประสิทธิภาพในการใช้งาน ในช่วงต้นๆ ของการดำเนินธุรกิจ Puma ได้พัฒนารองเท้าฟุตบอลรุ่น Atom และ King ที่กลายเป็นที่นิยมในวงการกีฬา ด้วยการใช้วัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการเล่นกีฬา
Puma ได้ร่วมมือกับนักออกแบบและเซเลบริตี้ชื่อดังหลายคนเพื่อสร้างคอลเลคชั่นที่มีเอกลักษณ์ ตัวอย่างเช่น:
- Rihanna: Rihanna ได้ร่วมมือกับ Puma ในการออกแบบคอลเลคชั่น Fenty x Puma ที่มีสไตล์แฟชั่นล้ำยุคและได้รับความนิยมอย่างมาก
- Jay-Z: Jay-Z ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบและโปรโมตรองเท้า Puma โดยนำเอาความคิดสร้างสรรค์และแนวทางของตนมาใช้
Puma มีความสามารถในการผสมผสานความเป็นกีฬาเข้ากับแฟชั่นได้อย่างลงตัว รองเท้ารุ่นคลาสสิกอย่าง Puma Suede และ Puma Clyde เป็นตัวอย่างที่ดีในการนำเอาดีไซน์แบบดั้งเดิมมาปรับปรุงให้เข้ากับแนวแฟชั่นปัจจุบัน ทำให้สามารถสวมใส่ได้ทั้งในชีวิตประจำวันและในโอกาสพิเศษPuma มุ่งเน้นในการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงการออกแบบและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น Puma ใช้เทคโนโลยี IGNITE Foam ในการออกแบบพื้นรองเท้าเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและการตอบสนอง นอกจากนี้ยังมีการใช้วัสดุรีไซเคิลและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิต Puma มีการใช้สีสันและลวดลายที่หลากหลายในการออกแบบสินค้าเพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่สีเรียบๆ แบบคลาสสิกไปจนถึงสีสันสดใสและลวดลายที่โดดเด่น Puma ให้ความสำคัญกับการออกแบบที่เน้นการใช้งานจริง โดยรองเท้าส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาให้มีความสบายและทนทานในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ากีฬาหรือรองเท้าแฟชั่น การออกแบบของ Puma โดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัย การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ การร่วมมือกับนักออกแบบและเซเลบริตี้ชื่อดัง รวมถึงการเน้นการใช้งานจริงและความหลากหลายของสีสันและลวดลาย ทำให้ Puma กลายเป็นแบรนด์รองเท้าที่ได้รับความนิยมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในวงการกีฬาและแฟชั่น